วัฒนธรรมและประเพณี


 ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ  เมืองแพร่แห่ตุงหลวง  จังหวัดแพร่
          “ย้อนอดีตเก่าแก่  เมืองแพร่เมืองงาม  เล่าขานตำนานช่อแพร่ช่อแฮแหล่งประดิษฐานพระเกศาธาตุ  พระบรมสารีริกธาตุ  พระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า  เมื่อถึงวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๔ ใต้ เดือน ๖ เหนือ  พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลไหว้พระธาตุช่อแฮ  เมืองแพร่  แห่ตุงหลวง  ถวายแด่องค์พระธาตุสืบมา”
ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง จังหวัดแพร่

ตำนานเก่าแก่แห่งเมืองมนต์ขลังเล่าว่า  อดีตกาล  พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึงดอยโกสิยธชัคคะบรรพตและได้มอบพระเกศาธาตุให้ขุนลั๊วอ้ายก้อมไปบรรจุในผอบแก้วแล้วนำไปไว้ในถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ  ซึ่งผ้าแพรที่ขุนลั๊วอ้ายก้อมนำมารองรับพระเกศาธาตุนั้นเรียกว่า “ผ้าแฮ”  นิยมนำผ้าแฮ หรือผ้าแพรมาประดิษฐ์เป็นช่อ  หรือธง  แล้วทำการถวายสักการะเป็นพุทธบูชา  ต่อมาภายหลังเพี้ยนมาเป็น  “ช่อแฮ่”  หรือ  “ช่อแพร่”  โดยครั้งนั้นพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่งว่า  ต่อไปเมืองนี้จะชื่อเมืองแพร่  และหลังจากที่พระองค์ปรินิพพานแล้ว  ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้ายมาประดิษฐ์ที่นี่ด้วย  และหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ๒๑๘ ปี  พระเจ้าอโศกมหาราชและพระอรหันต์จำนวนมากได้ร่วมกันอธิษฐานอันเชิญพระบรมสารีกริกธาตุที่ได้บรรจุในผอบแก้วที่เตรียมไว้นั้นไปสถิตในสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงหมายไว้แต่เดิม  แล้วประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้พิทักษ์รักษาตลอดไป  จนกว่าจะหมดอายุแห่งพระพุทธศาสนา ๕๐๐๐ พระวัสสา 
ประเพณีลอยกระทง  เผาเทียนเล่นไฟ  จังหวัดสุโขทัย
          ประเพณีไทย – “พระราชพิธีจองเปรียง  แห่งเมืองสุโขทัย  เผาเทียน  เล่นไฟ  พลุ  ตะไล  ไฟพะเนียง  โคมลอยรูปดอกกระมุท  ที่สุดของโคม  แห่นางนพมาศ  บูชาพระพุทธมหานัมมทาน  วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒  ประชาราษฎร์กล่าวขาน  ลอยกระทง  เผาเทียน  เล่นไฟ  ร่วมแรงศรัทธาเผาเทียนบูชาพระรัตนตรัย  สว่างไสวพร้อมกัน”
Untitled-2_1

พระราชพิธีจองเปรียงมีมาแต่โบราณ  ช่วงสมเด็จพระร่วงเจ้า  จากหลักฐานในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์  ได้กล่าวถึงนางนพมาศว่า  เมื่อครั้งสมเด็จพระร่วงเจ้า  พร้อมด้วยพระอัครมเหสีและพระสนมฝ่ายใน  เสด็จลงประพาสลำน้ำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒  ตามพระราชพิธีในเวลากลางคืน  เพื่อทอดพระเนตรการนักขัตฤกษ์  นางนพมาศจึงได้ประดิษฐ์กระทงถวายเป็นรูปดอกกระมุทหรือรูปดอกบัว  สมเด็จพระร่วงเจ้าพอพระทัยมาก  จึงประกาศว่า  “แต่นี้สืบไปเบื้องหน้า  กษัตริย์ในสยามประเทศ  ถึงการกำหนดนักขัตฤกษ์  วันเพ็ญเดือน ๑๒  พระราชพิธีจองเปรียง  แล้วก็ให้กระทำโคมลอยเป็นรูปดอกกระมุท  อุทิศสักการบูชาพระพุทธมหานัมมทาน  ตราบเท่ากัลปาวสาน”


ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ  จังหวัดอุทัยธานี
“เทโวโรหณะ  วิถีแห่งศรัทธาต่อศรัทธา”
          “ขึ้นแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑  ถึงกำหนดเวียนมาบรรจบ ณ วัดสังกัตรัตนคีรี  ประเพณีตักบาตรเทโว  พระสงฆ์หลายร้อยรูปเดินลงจากยอดเขา  ผ่านบันได ๔๔๙ ขั้นสู่เบื้องล่าง  ที่ยังเนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนเรือนหมื่น  ที่ยังคงยึดมั่นในวิถีปฏิบัติดั้งเดิม  อันสะท้อนภาพแรงศรัทธาที่สุกสว่าง  ภายในจิตใจของทุกคน”
อุทัยธานี  ชุมชนลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง  เมืองเล็กๆ ที่อบอุ่น  และมากด้วยไมตรีจิต  ที่พร้อมมอบให้แก่คนต่างถิ่น  และรอให้เข้ามาสัมผัส  วัฒนธรรม  ประเพณีไทยที่ยังคงเอกลักษณ์  และห่างไกลสิ่งเจือปนจากภายนอก  บางคนมักจะละเลยผ่านไป  แต่ลองหยุดแวะพัก  ค่อยๆ ปล่อยชีวิตให้เดินช้าลง  คุณจะหลงรักเมืองแห่งนี้ได้ไม่ยาก

ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ จังหวัดอุทัยธานีณ บริเวณศูนย์กลางของเมือง  ยอดเขาสะแกกรังยังคงเป็นสถานที่ศักสิทธิ์  ที่มีความเชื่อมาแต่โบราณกาลว่าเป็นที่ตั้งของซากโบราณสถาน  ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๐  พระปลัดใจ  เจ้าอาวาสวัดทุ่งแก้ว  และชาวอุทัยธานีได้ลงแรงช่วยกันสร้างมณฑปสิริมหามายากุฎาคาร  พร้อมก่อสร้างวัดสังกัตรัตนคีรีมงคลประไพอุทัยเขตร์ขึ้น  จนกลายเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชน  ชาวอุทัยธานีและชาวไทยเรื่อยมา








ประเพณีวิ่งควาย  จังหวัดชลบุรี
          “ลานกว้าง  คือสนามประลองเจ้าแห่งความเร็วของเจ้าทุยเพื่อนรัก  สัตว์เลี้ยงคู่ใจชาวนาไทยครั้งอดีต  ที่ต่างวางคันไถ  ออกจากท้องนาขึ้นมาช่วงชิงชัยชนะในสนามการแข่งขันวิ่งควาย  ประเพณีที่สร้างความคึกคักเร้าใจ  ได้ทุกช่วงวินาทีที่ผู้บังคับประสานเป็นหนึ่งกับเจ้าทุย  ขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่ขนาบทั้งซ้ายขวา  มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นชัย  เพียงช่วงเวลาไม่กี่นาที”
ใกล้เข้าสู่เทศกาลออกพรรษา  ผ่านพ้นช่วงการไถหว่านของชาวนาที่มีควายไทยเป็นแรงงานหลักในการไถแปลงนาให้พร้อมสำหรับการเพาะปลูกข้าว  เมื่อทำงานหนักเสร็จสิ้นก็ได้เวลาในการพัก  แต่ระหว่างที่รอการเก็บเกี่ยวผลผลิต  ช่วงนี้เองที่ชาวนาจะได้มีโอกาสนำผลผลิตจากฤดูก่อนหน้ามาค้าขาย  แลกเปลี่ยนกันในตลาด  บางคนใช้ควายเป็นพาหนะขนของ  ยางคนก็แต่งองค์ทรงเครื่องให้ควายของตนสวยงาม  จนเมื่อเสร็จสิ้นการพบปะพูดคุย  จึงชักชวนกันนำควายของตนมาวิ่งแข่งขันกัน  จนกลายเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาจวบจนปัจจุบัน 
ประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี
http://xn--k3cikmwc5gwb5fxbya.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น